ความแตกต่างระหว่าง Com Science กับ Software Engineer

[pkovitan]

มีน้องมาถามพี่ว่า Com Science กับ Software Engineering ต่างกันยังไง ...

ไว้ว่าง ๆ จะตอบให้ครับ (มันยาว)

ตอบแน่นอน ไม่เกิน 2 วันนี้ จะพิมพ์ให้อ่านอย่างละเอียดเลย


PKO

[black_magic]

อุส่ามาโพสบอกใว้ก่อนว่าจะมาโพส - - ขอบคุณคับ

[killua]

....
....

ก็ได้แต่รอ ร้อ รอ ....

[pkovitan]

ขออภัยครับ ... ลืมสนิทเลย

เรื่องที่จะเล่านี้บางคนเคยฟังจากพี่โดยตรงแล้ว ... สำหรับคนไม่เคยฟังก็ลองอ่านดูครับ เผื่อได้แง่คิดเปรียบเทียบว่าจะเลือกเรียนสายอะไร

.........................................................

ก่อนอื่นก็จะเล่านิทานให้ฟังครับ

เมื่ออนาคตอันไกล ... มีมนุษย์ต่างดาวมาเยือนโลกมนุษย์ครับ ...

มนุษย์ต่างดาวก็เป็นพวกศิวิลัยเหมือนเรานี่แหละ (เรื่องหน้าตาเป็นไง ก็ลองเอาไปคิดกันเองแล้วกัน)

เขามาเยือนโลกเราอย่างสันติครับ ... ฝ่ายเราก็พยายามจะมีสัมพันธไมตรีด้วย โดยที่ผู้นำของโลกในยุคนั้น ก็พามนุษย์ต่างดาวไปเที่ยวชม ศิลปวัฒนธรรมต่าง ๆ ที่เลื่องชือของโลก

แต่มนุษย์ต่างดาวก็มีคุณสมบัติอย่างหนึ่งในตัวของเขาครับ คือ ... เขาจะมองไม่เห็น และไม่รู้จักของที่เป็นทรงกลม หรือวงกลมต่าง ๆ ...

ครั้งนึง ผู้นำของโลกก็พามนุษย์ต่างดาวนี้ ไปชมกีฬาที่เล่นกันมาเป็นหลายพันปี และได้ชื่อว่าเป็นกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติ คือ ฟุตบอล (พี่ได้เป็นพวกบ้า บอลนะ ... แต่ในตำนานเขาเล่ากันมาอย่างนี้)

มนุษย์ต่างดาวก็เลย ไม่เข้าใจครับ ว่าเกิดอะไรขึ้นในสนามทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้านั้น ... และคนที่อยู่รอบสนามทำไมถึงสนุกกับ ผู้เล่นทั้ง 22 คนในสนามนั้น ขนาดนั้น

พอมีคนนึงทำท่าเหมือนเตะอะไรบางอย่าง ก็มีคนที่กระโดดเหมือนรับอะไรบางอย่าง แล้วตาข่าย ด้านหลังชายที่กระโดดรับ ก็สั่นไหว ... ผู้คนรอบ ๆ สนามก็กระโดดร้องเฮฮา

???

เกิดอะไรขึ้นหว่า ???

และแล้ว มนุษย์ต่างดาวก็เริ่มจะเรียนรู้พฤติกรรมเหล่านั้น โดยการเริ่มสร้างสมการบางอย่างขึ้นมาอธิบายตัวแปล X (ลูกบอลของเรานี่แหละ) ซึ่งเป็นสิ่งที่เขามองไม่เห็น

ด้วยการเรียนรู้ดังกล่าว ไม่นานนัก มนุษย์ต่างดาวก็เริ่มเข้าใจเงื่อนไขของเกมส์นี้ และเริ่มที่จะสนุกกับมัน ร่วมกับคนที่ดูอยู่ในสนามทั้งหมด

มนุษย์ต่างดาว สามารถรู้และเข้าใจ แถมยังสนุกกับสิ่งที่เรามองไม่เห็นได้ ... ด้วยการสร้างแบบจำลอง หรือสมการ บางอย่างเพื่ออธิบายสิ่งที่มองไม่เห็นและซับซ้อนเกินความเข้าใจของเขาได้

จบนิทาน
.........................................................

กระบวนการ การสร้างความรู้ของมนุษย์ต่างดาว ไม่ได้แปลกใหม่สำหรับมนุษย์โลกเลย

เราใช้กระบวนการเดียวกันนี้ ในการอธิบายแรงโน้มถ่วงของโลก ที่เราไม่เห็น ...
มันเป็นกระบวนการเดียวกัน ที่ทำให้เรารู้ว่า โลกกลม ... ทั้ง ๆ ที่เรายืนอยู่บนโลก
มันเป็นกระบวนการเดียวกัน ที่ทำให้เรารู้ว่า โลกอยู่ในสุริยะจักรวาล ทั้ง ๆ ที่เราไม่เคยออกไปนอกโลกเลย
มันทำให้เรารู้ว่า ไวรัส ที่เล็กมาซะจนเรามองไม่เห็น มันมีการทำงานอย่างไร ... และจะควบคุมหรือทำลายมันได้อย่างไร

มันทำให้เรารู้และเขาใจว่า ซอฟต์แวร์ ที่มองไม่เห็น และจับต้องไม่ได้ ... มันทำงานอย่างไร ... และจะสร้างมันให้ดีได้อย่างไร

สิ่งเหล่านี้ เราเรียกมันว่า "วิทยาศาสตร์" ครับ

วิทยาศาสตร์ ไม่ว่าจะอยู่ในสายอะไร คือ วิทยาการ ที่ทำให้เกิดองค์ความรู้ และเข้าใจมัน ก่อนที่จะนำมันไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป

วิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์คือ การเรียนรู้กระบวนการทำงานของคอมพิวเตอร์ในหลากหลายรูปแบบ เพื่ออธิบายมันได้ พัฒนามันได้ และนำมันไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพได้

ส่วนวิศวะกรรมคือ การนำองค์ความรู้ที่มีอยู่แล้วมาประดิษฐ์ เป็นของที่จะสามารถนำไปใช้ได้ง่าย หรือนำไปพัฒนาของอย่างอื่นได้ง่ายอีกด้วยเช่นเดียวกัน

ดังนั้น วิศวะกรรมซอฟต์แวร์ จึงหมายรวมถึง การทำแนวความรู้ทางวิศวะกรรม มาใช้ในการพัฒนาซอฟต์แวร์ (เหมือนวิศวะกรรมยานยนต์น่ะ ก็ผลิตรถยนต์)

วิศวะกรรมซอฟต์แวร์ เป็นศาสตร์ที่อยู่กึ่งกลางของวิศวะกรรม (เราต้องรู้การพัฒนาองค์ความรู้ในสายเขาล่ะ) และวิทยาศาตร์คอมพิวเตอร์

.........................................................

ไม่แน่ใจนักหรอกครับ ว่าที่เล่าให้ฟัง จะบรรดาลความเข้าใจกับพวกเรามากน้อยขนาดไหน ที่เหลือก็ต้องลองสัมผัสกับมันล่ะครับ ถึงจะเข้าใจแบบถ่องแท้

.........................................................

ท้ายที่สุดแล้วพี่ก็เป็นรุ่นพี่คนหนึ่งของเราที่จบ Com-Sci มา แต่ทำงานในสาย Software Engineer

กระบี่อยู่ที่ใจครับ ... อยู่ที่ไหน ก็รำเพลงกระบี่ได้