Harry Potter and the Half-Blood Prince

[killua]

เป็น Original Version นะ (ภาษาอังกฤษล้วน ๆ)
ไฟล์ .doc เราบีบให้เป็น .zip แล้ว
ก็ราว ๆ 500 kb
ทั้งหมดก็ 825 หน้า (ขำ ๆ)

ดาวน์โหลดได้ที่นี่ Harry Potter and the Half-Blood Prince

ป.ล.1. รู้สึกภาคนี้ดัมเบิลดอร์จะตายแฮะ
ป.ล.2. หลายคนอาจจะอยากรู้ว่าใครคือ The Half-Blood Prince คำตอบคือ "สเนป" ครับ

[killua]

ทั้งเล่มมีทั้งหมด 30 บทครับ
มีคนที่เขาอ่านแล้วสรุปเนื้อเรื่องย่อแต่ละบทไว้

บทที่1 The Other Minister

เป็นเรื่องของฟัดจ์คุยกับนายกของพวกมักเกิ้ล เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดการฆาตกรรมขึ้น โดยบอกว่ามันเป็นฝีมือของพวก "ผู้ที่ไม่ควรเอ่ยนาม"และคณะ และ"ผู้ที่ไม่ควรเอ่ยนาม"ได้กลับมาแล้ว นอกนั้นก็เป็นรายละเอียดปลีกย่อยของการพบกันระหว่างฟัดจ์กับนายกก่อนหน้านี้

บทที่2 Spinner's End

เปิดเผยความจริงที่น่าตกใจเนื่องจากการมาพบเซเวอรัส สเนปถึงบ้านของนาซิสซา ภรรยาของลูเซียสมัลฟอย และเบลาทริกซ์ผู้เสพความตาย โดยนาซิสซาต้องให้ให้สเนปช่วยเหลือลูกชายของนาง เดรโก มัลฟอย เนื่องจากจอมมารได้มอบหมายภารกิจบางอย่างที่อันตราย แต่เบลาทริกซ์นั้นไม่ไว้ใจในตัวสเนป สเนปจึงได้เผยถึงความจริงว่า ที่จริงแล้ว จอมมารได้ส่งตนเข้าไปเป็นสปายค้นความลับจากดัมเบิลดอร์นั่นเอง

บทที่3 Will and Won't

แฮร์รี่อยู่ในบ้านเดอร์สลีย์ อ่านเดลี่พรอเฟ็ต, ประกาศจากกระทรวง, และจดหมายจากดัมเบิลดอร์ว่าเขาจะมาเยือนบ้านเดอร์สลีย์ในเย็นวันนี้ และได้คุยกันในเรื่องของสมบัติที่พ่อทูนหัวของเขา ซีเรียส แบล็ค ว่าจะตกเป็นของใคร ระหว่างแฮร์รี่ พอตเตอร์ หรือญาติใกล้ชิดของเขาที่เหลืออยู่ เบลาทริกซ์ เลสเตรงจ์ ผู้ที่สังหารเขานั่นเอง เพื่อพิสูจน์ว่าใครจะได้เป็นเจ้าของ ดัมเบิลดอร์ได้เรียก ครีเชอร์ เอลฟ์ประจำบ้านแบล็คมาที่บ้านเดอร์สลีย์ ครีเชอร์ที่สติแตกพูดซ้ำๆ "ไม่ ไม่ ไม่ (won't, won't)" และแฮร์รี่ก็ได้สั่งให้เขาหุบปาก ซึ่งได้ผล นั่นหมายความว่าบ้านแบล็คและครีเชอร์ได้ตกเป็นของแฮร์รี่แล้วนั่นเอง แฮร์รี่จึงได้อนุญาตให้ภาคีฟินิกซ์ใช้บ้านกริมโมลเพลสเป็นฐานทัพและยกครีเชอร์ให้ไปทำงานในครัวของฮอกวอตท์ จากนั้นจึงเก็บข้าวของและออกจากบ้านเดอร์ลีย์พร้อมกับดัมเบิลดอร์

บทที่4 Horace Slughorn

ดัมเบิลดอร์พาแฮร์รี่ไปพบกับพ่อมดคนนึง นายกวี ตีเขา(Horace Slughorn)ซึ่งเป็นเพื่อนเก่าของดัมเบิลดอร์เอง เพื่อขอให้เขากลับมาเป็นอาจารย์สอนที่ฮอกวอตท์เช่นในอดีต เขาเคยเป็นอาจารย์ประจำบ้านสลิธิรินมาก่อนในตอนที่ลิลลี่กับเจมส์ยังเรียนอยู่ในฮอกวอตท์ ถึงแม้ว่าจะเป็นอาจารย์ประจำบ้านสลิธิรินก็ตาม แต่แม่ของเขา ลิลลี่ก็เป็นหนึ่งในนักเรียนที่เขาชื่นชม ทีแรกนั้น ฮอเรสไม่ใคร่ที่จะอยากมาเป็นอาจารย์สอนเท่าไรนักเนื่องจากความคิดที่ว่า การผูกมิตรกับดัมเบิลดอร์จะทำให้เขาตกอยู่ในอัตรายจาก "ผู้ที่ไม่ควรเอ่ยนาม" แต่ท้ายที่สุด เขาก็ตัดสินใจที่จะมาสอน จากนั้นดัมเบิลดอร์พาแฮร์รี่ไปยังบ้านโพรงกระต่าย และได้บอกกับแฮร์รี่ว่าปีนี้ เขาจะให้เวลาในการฝึกสอนแฮร์รี่เป็นการส่วนตัว "สอนนู่นนิด สอนนี่หน่อย" ดัมเบิลดอร์ว่าอย่างนั้น

บทที่5 An Excess of Phlegm

เมื่อแฮร์รี่มาถึงบ้านโพรงกระต่าย ก็ได้รับการต้อนรับอย่างดีจากนางวีสลีย์ และขณะที่แฮร์รี่ลงมือรับประทานอาหารอยู่ นายวีสลีย์ก็กลับมาถึงบ้าน ทั้งคู่ได้คุยกันเล็กน้อยเกี่ยวกับงานที่นายวีสลีย์ได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นหัวหน้าแผนกที่เกี่ยวกับกับการป้องกัน แฮร์รี่ได้เข้านอนที่ห้องของฝาแฝดวีสลีย์ ซึ่งตอนนี้ไม่มีใครใช้เนื่องจากฝาแฝดทั้ง2 ยุ่งอยู่กับกิจการและนอนค้างที่ตรอกไดแอกกอน เมื่อถึงตอนเช้า รอนและเฮอร์ไมโอนี ได้เข้ามาพูดคุยกับแฮร์รี่ เมื่อแฮร์รี่ลงไปกินเข้าเช้าก็พบกับเฟลอร์ เดอลาผมล และได้ทราบข่าวดีว่า อีกไม่นาน เฟลอร์และบิลพี่ชายของรอนจะแต่งงานกัน แต่นางวีสลีย์นั้น ไม่ค่อยจะเห็นด้วย เนื่องจากในสถานการณ์ที่โวลเดอมอร์ทกลับมาเรืองอำนาจนั้น ไม่มีใครรู้ว่าตนเองหรือครอบครัวจะตายเมื่อไหร่ อีกทั้งจินนี่ก็ไม่ชอบหล่อนเอาซะเลย จากนั้นแฮร์รี่ได้บอกถึงการสอนเป็นการส่วนตัวจากดัมเบิลดอร์ในเทอมนี้และคำทำนายระหว่างเขาและจอมมาร ทำให้เพื่อนทั้ง2 ดูวิตกและเห็นใจแฮร์รี่ จากนั้นขณะเที่ยง ได้มีนกฮูกนำจดหมายผลการสอบ วพรส. มาส่ง ผลการสอบของแฮร์รี่และรอนเป็นที่น่ายินดี เพราะเขาสอบได้ "ดี" เกือบทุกวิชา แต่ตกในวิชาพยากรณ์และประวัติศาสตร์เวทย์มนตร์ แต่แฮร์รี่ทำวิชาต่อต้านศาสตร์มืดได้ "ดีมาก" ในขณะที่เฮอไมโอนี สอบได้ "ดีมาก"เกือบทุกวิชา ยกเว้นวิชาต่อต้านศาสตร์มืดเท่านั้นที่เธอทำได้เพียงแค่ "ดี"

---------------------------------------------------------------------
เดี๋ยวจะมาลงต่อครับ

[killua]

บทที่6 Draco's Detour

ใกล้เปิดเทอมแล้ว นายวิสลีย์ได้ยืมรถจากกระทรวงเพื่อไปส่งที่ดรอกไดแดกกอน โดยมีแฮกริดเป็นผู้คุ้มกัน เมื่อถึงตรอก นายและนางวิสลีย์ได้แยกไปซื้อเครื่องเรียนส่วนเด็กๆเข้าไปร้านเสื้อผ้าเพื่อตัดชุดใหม่โดยมีแฮกริดยืนเฝ้าอยู่หน้าร้าน ภายในร้านเด็กๆได้พบกับมัลฟอยและแม่ของเขา และได้ปะทะคารมกันนิดหน่อย ก่อนที่จะออกไปสมทบกับนายและนางวิสลียืที่ซื้อเครื่องเรียนเสร็จแล้ว ทั้งคณะได้ไปเยี่ยมร้านของคู่แฝด เฟร็จ จอร์จ ที่ร้านเกมกลวิเศษวิสลีย์ ขณะกำลังเยี่ยมชมสินค้า แฮร์รี่เห็นมัลฟอยเดินผ่านหน้าร้านไปอย่างรวดเร็ว แฮร์รี่จึงดึงเพื่อนทั้ง2เข้าใต้ผ้าคลุมล่องหนติดตามมัลฟอยไปทางตรอกน็อกเทิร์น เมื่อถึงร้านของนายบอร์กิ้นที่ขายสินค้าเกี่ยวกับศาสตร์มืด มัลฟอยได้นำของบางอย่างมาให้นายบอร์กิ้นซ่อมแซม แต่นายบอร์กิ้นดูจะไม่พอใจเท่าใดนัก นายมัลฟอยจึงได้โชว์ของลับ(-_-") ทำให้นายบอร์กิ้นตกใจและรับซ่อมของอย่างช่วยไม่ได้ จากนั้นทั้ง3ได้กลับไปสมทบกลุ่มที่ร้านของคู่แฝด

บทที่7 The Slug Club

ตลอดเวลาอาทิตย์ที่เหลือแฮร์รี่เป็นกังวลกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ตรอกน็อกเทิร์นเป็นอย่างมาก แฮร์รี่คาดเดาว่าของลับที่มัลฟอยโชว์ให้นายบอร์กิ้นดูนั้นคือตรามารที่แขนของเขานั่นเอง แต่ดูเหมือนรอนและเฮอร์ไมโอนีจะไม่ค่อยเห็นด้วยกับแฮร์รี่เท่าใดนัก เมื่อถึงวันออกเดินทาง นายวิสลีย์ได้ขอยืมรถจากกระทรวงพร้อมทั้งมือปราบมารมาคุ้มกัน ก่อนขึ้นรถไฟ แฮร์รี่ได้พูดคุยเกี่ยวกับความกังวลให้นายวิสลีย์ฟังอีกด้วย เมื่อรถไฟออกรอนและเฮอร์ไมโอนีออกตรวจตราตามหน้าที่ของพรีเฟ็ค แฮร์รี่นั่งคุยกับเนวิลและลูน่า จากนั้นมีคนนำจดหมายเชิญจากฮอเรน สลักฮอร์นมาเชิญแฮร์รี่และเนวิล เมื่อถึงตู้ขบวนที่ฮอเรสพักอยู่ แฮร์รี่พบว่ามีเด็กจากบ้านอื่นนั่งอยู่ก่อนแล้วจำนวนนึง ฮอเรสเชิญเด็กๆมาเพื่อพูดคุยและเมื่อใกล้ถึงโรงเรียนฮอเรสจึงได้ปล่อยเด็กๆให้ไปเตรียมตัว แอรืรี่รีบสวมผ้าคลุมล่องหนตามเด็กบ้านสิลิธิรินไปยังตู้ที่มัลฟอยพักอยู่เพื่อแอบฟัง มัลฟอยกล่าวว่าปีหน้าเขาอาจจะไม่มาเรียนแล้วเนื่องจากมีภาระที่สำคัญกว่า และเมื่อจอมมารเป็นใหญ่โรงเรียนก็ไม่มีความหมายอีกต่อไป เมื่อรถไฟเทียบชาญชลาแฮร์รี่พลาดทำให้มัลฟอยระคายถึงการมีอยู่ของตัวแฮร์รี่ภายในตู้ขบวนจึงสาปแฮร์รี่ให้ขยับตัวไม่ได้ ผ้าคลุมล่องหนหลุดจากตัว มัลฟอยกล่าวว่าเขาไม่สนใจหรอกว่าแฮร์รี่จะได้ยินอะไรไปบ้างก่อนที่จะกระแทกที่หน้าแฮร์รี่อย่างแรงแล้วนำผ้าคลุมล่องหนกลับมาคลุมตัวแฮร์รี่ที่ขยับตัวไม่ได้และพูดว่า ขอให้ไม่มีคนเห็นจนกว่าแกจะกลับไปถึงลอนดอน

บทที่8 Victorious Snape

เมื่อรถไฟใกล้ออก นิมฟาดอร่า ท็องส์ได้เข้ามาช่วยแฮร์รี่ได้ทันเวลาพอดี โดยท็องส์สงสัยว่าแฮร์รี่ทำไมถึงไม่ลงจากรถ และทราบมาว่าแอร์รี่มีผ้าคลุมล่องหน อาจจะเกิดอะไรที่ทำให้แฮร์รี่ไม่สามารถลงจากรถได้ โดยขณะนี้ท็องส์ได้เข้ามาดูแลความปลอดภัยอยู่ที่อ็อกมี้ด เมื่อถึงปราสาทสเนปมาเปิดประตูปราสาทให้ แฮร์รี่เข้าไปยังห้องอาหารแฮร์รี่พลาดการคัดสรรอีกแล้ว จากนั้นดัมเบิลดอร์ได้ประกาศว่ามีอาจารย์คนใหม่ ฮอเรส สลักฮอร์น สอนในวิชาปรุงยา และสเนปสอนวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืด ก่อนกลับหอนอน แฮร์รี่ได้พูดคุยกับแฮร์กริดเกี่ยวกับกรอว์ปน้องชายยักษ์ของเขาซึ่งขณะนี้ออกจากป่าไปพักในถ้ำบนภูเขาแล้ว เมื่อจากกันแฮร์รี่และรอนพูดคุยกันว่าจะเลิกเรียนวิชาสัตวเวทย์วิเศษและคิดว่าเฮอร์ไมโอนีจะเลิกเรียนด้วย ทั้งคู่คิดว่าออกว่าแอกริดจะพูดว่าอย่างไรเมื่อนักเรียนที่เขาชื่นชอบที่สุดทั้ง3คน จะเลิกเรียนต่อในวิชาที่เขาสอน

บทที่9 The Half-Blood Prince

วันเปิดภาคเรียน แฮร์รี่ปรึกษากับมักกอนนากัลเกี่ยวกับวิชาที่จะลงเรียนต่อมีวิชา เวทย์มนตร์, แปลงร่าง, สมุนไพร และป้องกันตัวจากศาสตร์มืด มัลกอนนากัลแนะนำแฮร์รี่ว่า ถ้าอยากเป็นมือปราบมาร ควรจะลงเรียนวิชาปรุงยาต่อด้วย แต่แฮร์รี่บอกว่ามักกอนนากัลเคยพูดว่าสเนปจะไม่รับสอนวิชาปรุงยาหากไม่ได้ "ดีเยี่ยม" จากวพรส. แต่มักกอนนากัลว่าฮอเรสยินดีรับในระดับ "ดี" เข้าเรียนต่อไปได้ แต่เนื่องจากแฮร์รี่และรอนไม่ได้คิดว่าจะได้เรียนต่อ จึงไม่ได้ซื้อหนังสือมาเก็บไว้เลยมักกอนนากัลจึงได้ให้ไปยืมจากฮอเรสใช้ไปก่อน จากนั้นดัมเบิลดอร์ได้ส่งจดหมายนัดเรียนพิเศษในคืนวันสุดท้ายของอาทิตย์ และเข้าไปเรียนวิชาป้องกันตัวจากศาตร์มืด สเนปสอนชั้นเรียนเกี่ยวกับการร่ายเวทย์โดยไม่ต้องออกเสียง วิชาต่อไปคือวิชาปรุงยา ฮอเรสได้นำยาในระดับสูงออกมาให้ดูหลายอย่างเช่น ยาสรรพรส, สัจจะเซรุ่ม, ยาเสน่ห์ และยาโชคดี ฮอเรสให้แฮร์รี่ยืมหนังสือเล่มหนึ่งซึ่งมีคนเคยใช้แล้วและจดโน๊ตย่อเต็มไปหมด แฮร์รี่ปรุ่งยาตามตำราและโน๊ตย่อจนสามารถปรุงยาได้ดีกว่าใครเพื่อนจึงด้รับรางวัลเป็นยาโชคดีที่กินแล้วจะโชคดีไปตลอด24ชั่วโมง แฮร์รี่บอกเรื่องโน๊ตย่อกับเพื่อนทั้ง2 ที่ทำให้แฮร์รี่ปรุงยาได้อย่างดี เฮอร์ไมโอนี่สงสัยว่าจะซ้ำรอยกับเหตุการณ์สมุดของริดเดิ้ลเมื่อครั้งที่พวกเขาอยู่ปี2 จึงได้ทดสอบคาถา แต่ไม่มีอะไรผิดปกติ แต่เมื่อตอนแฮร์รี่รับหนังสือคืนหนังสือหลุดจากมือตกลงบนพื้นทำให้แฮร์รี่สังเกตุเห็นข้อความที่ปกหลังของหนังสือเป็นอักษรตัวเล็กๆที่เหมือนกับที่ก้นขวดน้ำยาโชคดีที่แฮร์รี่ได้มาจากฮอเรสเขียนไว้ว่า "หนังสือเล่มนี้เป็นสมบัติของเจ้าชายเลือดผสม"

บทที่10 The Hour of Gaunt

หนังสือของเจ้าชายเลือดผสม ทำให้แฮร์รี่สามารถปรุงยาได้ดีกว่าที่เคยเป้นมา เมื่อถึงเวลาแฮร์รี่ไปพบดัมเบิลดอร์ เพื่อฝึกฝนเพิ่มเติม ดัมเบิลดอร์พาแฮร์รี่เข้าไปในเพนซิฟของนายกันท์ผู้ทำงานในกระทรวงแต่ก่อน นายกันท์เดินทางไปพบนายอ๊อกเด็น เนื่องจากลูกชายของเขาทำผิดกฏหมายพ่อมดโดยไปสาปมักเกิ้ลเข้า นายอ๊อกเด็นมีลูกชายและลูกสาวอย่างละคน ลูกชายชื่อมอร์ฟิน ลูกสาวชื่อ เมโรป ครอบครัวนี้เป็นครอบครัวที่มีเลือดบริสุทธิ์ที่สืบสายเลือดมาจาก ซัลลาซาร์ สลิธิริน และสามารถพูดภาษางูกันได้ มอร์ฟินบอกว่า เหตุที่เขาสาปนายทอม เนื่องจากเขาเห็นน้องสาวแอบชอบนายทอมที่เป็นมักเกิ้ล นายอ๊อกเด็นได้ยินดังนั้นจึงเกิดโทสะบีบคอเมโรป นายกันท์เห็นดังนั้นจึงสาปนายอ๊อกเด็นให้กระเด็นออก มอร์ฟินจึงถึอมีดวิ่งเข้ามาจะทำร้ายทำให้นายกันท์ต้องหนีไป เรื่องราในเพนซิฟจบอยู่เท่านี้ แฮร์รี่ถามถึงเรื่องราวต่อไปกับดัมเบิลดอร์ เมโรปนั้นได้หนีออกจากบ้านใช้ยาเสน่ห์ทำให้ทอมหลงและแต่งงานด้วยกันจนตั้งครรภ์ นางตัดสินใจที่จะหยุดใช้ยาเสน่ห์ ทำให้ทอมทิ้งเธอไป ส่วนนายมาร์โวโล อ๊อกเด็น และมอร์ฟิน อ๊อกเด็น ติดคุกอัซคาบันอยู่ไม่นาน แฮร์รี่จึงเข้าใจว่าที่แท้แล้ว มาร์โวโร อ๊อกเด็นคือปู่ของจอมมาร โดยมีทอมเป็นพ่อและเมโรปเป็นแม่ จากนั้นแฮร์รี่จึงกลับไปที่หอนอน

--------------------------------------------------------
เดี๋ยวมีต่อครับ

[Spadez]

มาบอกงี้เด๋วก็อ่านไม่สนุกหรอก

[killua]

บทที่11 Hermione's Helping Hand

อย่างที่เฮอร์ไมโอนีคาดคิด ช่วงเวลาว่างที่เพิ่มขึ้นตอนเรียนปี6 ไม่ช่วยให้ผ่อนคลายขึ้นเลยเนื่องจากจากบ้านและการสอบเพิ่มขึ้นมากมาย ขณะนี้การร่ายเวทย์โดยไม่ออกเสียงไม่จำกัดอยู่ที่วิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืดเท่านั้น แต่รวมไปถึงวิชาเวทย์มนตร์และวิชาแปลงร่างด้วย เฮอร์ไมโอนีเสนอให้ลงไปหาแฮกริดหลังอาหารเช้า แต่แฮร์รี่ในฐานะของกัปตันทีมควิดดิชต้องลงไปที่สนามเพื่อคัดตัวนักกีฬาประจำบ้าน และรอนก็ไม่รู้จะพูดกับแฮกริดยังไงว่าเขาไม่ชอบวิชาที่เขาสอนเอาซะเลย อย่างไรก็ตามแฮร์รี่ก็ตกลงที่จะไปหาแฮกริดหลังจากคัดตัวนักกีฬาเสร็จแล้ว ขณะที่กำลังกินอาหารเช้า นกฮูกก็นำหนังสือปรุงยาเล่มใหม่มาส่งให้แฮร์รี่ แต่แฮร์รี่คิดว่าจะส่งหนังสือเล่มใหม่ที่เขาซื้อมาคืนให้ฮอเรสแทนหนังสือที่เขายืมมา เฮอร์ไมโอนีอ่านเดลี่ฟรอเฟ็ตและพบข่าวว่า นายแสตน ที่เป็นคนเก็บตังในรถเมล์อัศวินราตรีถูกจับเนื่องจากเป็นผู้เสพความตาย แฮร์รี่แทบไม่เชื่อว่าจะเป็นไปได้และคิดว่าเขาอาจจะถูกสะกดใจ ในการคัดเลือกนักกีฬา รอนสามารถป้องกันประตูได้ดีเยี่ยมและได้รับคัดเลือก รวมไปถึงจินนี่ในตำแหน่งเซสเตอร์ เมื่อจบการคัดเลือกทั้ง3ได้ไปหาแฮกริด ซึ่งตอนนี้ออกจะงอนอยู่เล็กน้อยที่ทั้ง3ไม่ยอมลงเรียนในวิชาที่เขาสอน แฮกริดกำลังยุ่งอยู่กับอาราก็อก แมงมุมยักษ์ที่ขณะนี้กำลังป่วยอยู่ ขณะที่ทั้ง3กลับเข้าปราสาท ฮอเรส ได้เข้ามาทักทายชวนแฮร์รี่และเฮอร์ไมโอนี่ไปที่ห้องของเขาซึ่งเขาได้เชิญเด็กคนอื่นๆไปก่อนหน้านี้แล้ว แต่คืนนี้แฮร์รี่ต้องถูกกักบริเวณจากสเนป แต่ฮอเรสบอกว่าเขาจะจัดการเรื่องนั้นให้เอง ทำให้รอนงอนอยู่เล็กๆ แต่เมื่อใกล้ถึงเวลา สเนปส่งข้อความมาว่ายังไงก็ต้องถูกกักบริเวณไม่ว่าจะมีใครเชิญไปไหนก็ตาม

บทที่12 Silver and Opal

ดัมเบิลดอร์อยู่ที่ไหน และกำลังทำอะไรอยู่ ไม่มีใครรู้ แต่ที่แน่ๆ แรรี่แทบจะไม่เห็นเขาที่โต๊ะอาหารเลยเป็นเวลาหลายสัปดาห์แล้ว แฮร์รี่ได้ทดลองคาถาแปลกๆที่เจ้าชายเลือดผสมเป็นคนคิดค้นขึ้นเอง แต่เฮอร์ไมโอนีไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าใดนักกับการที่จะนำคาถาที่ไม่รู้ว่าจะทำอะไรได้มาเสกเล่น และแล้วจินนี่ก็ได้นำจดหมายนัดจากัมเบิลดอร์มาส่ง จากนั้นทั้ง3ได้ไปเที่ยวฮอกมี้ดด้วยกัน และเจอมันดังกัสที่แอบเอาของจากบ้านพ่อทูนหัวของเขาออกมาขายทำให้แฮร์รี่โกรธมาก และมันดังกัสก็หนีไป แฮร์รี่กลับปราสาทอย่างหัวเสีย แต่ทว่าเกิดเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้นขณะที่พวกเขากำลังเดินทางกลับ เคธี่ เบล ถูกคำสาปจากสร้อยคออันนึงที่แฮร์รี่เคยเห็นมัลฟอยอยากได้ที่ร้านของนายบอร์กิ้น เคธี่ถูกนำตัวส่งให้อาจารย์ปฐมพยาบาลและนำตัวส่งเซนต์มังโก้ แฮร์รี่บอกความสงสัยเกี่ยวกับมัลฟอยให้มักกอนนากัลรู้ แต่เธอกลับบอกมาว่า มัลฟอยไม่ได้ไปฮอกมิ้ด แต่อยู่กับเธอเนื่องจากเรียนซ่อมวิชาแปลงร่าง

บทที่13 The Secret Riddle

คืนวันนั้น แฮร์รี่ปพบดัมเบิลดอร์ตามนัด ดัมเบิลดอร์พาแฮร์รี่ไปยังอดีตเมื่อตอนที่ดัมเบิลดอร์เดินทางไปยังสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่ลอนดอน เพื่อพบกับ ทอม ริดเดิ้ม มาร์โวโล และพาเขาเข้าสู่โลกแห่งเวทย์มนตร์ ทอมนั้นเดิมทีเป็นคนก้าวร้าว ดัมเบิลดอร์คิดว่าการที่ให้เขาได้ร่ำเรียน จะทำให้เปลี่ยนแปลงนิสัยของเขาได้ ทอมเป็นคนที่มีความสามารถ ทะเยอทะยาน กล้าได้กล้าเสีย มั่นใจในตัวเองสูง ดัมเบิลดอร์ในตอนนั้นไม่รู้เลยว่าทอมในตอนนั้น จะกลายมาเป็นลอร์ด โวลเดอร์มอร์ทในอนาคต...

บทที่14 Felix Felicis

หลังจากที่แฮร์รี่เล่นเรื่องราวเมื่อคืนให้เพื่อนทั้ง2ได้ฟังระหว่างวิชาสมุนไพร เมื่อจบชั้นเรียน รอนและเฮอร์ไมโอนี่มีเรื่องทะเลาะกันด้วยที่เฮอร์ไมโอนี่และแฮร์รี่ได้รับเชิญไปในงานปารตี้ของสลักฮอร์น แต่รอนไม่ได้ไป ในทีแรกเฮอร์ไมโอนี่จะมาชวนรอนไปเป็นคู่ในปาร์ตี้ แต่เนื่องจากทั้ง2ทะเลาะกันซะก่อนเฮร์ไมโอนีจึงได้ไปชวนคนอื่นแทน(เพื่อประชดรอนแหละ) และเนื่องจากเคธี่ เบลท์โดนคำสาป ทำให้เธอไม่สามารถลงเล่นควิดดิชได้ ทำให้แฮร์รี่ไปถามดีน โทมัสว่าสนใจจะลงเล่นหรือไม่ซึ่งดีนก็ตอบตกลงในทันที แฮร์รี่พาลูกทีมลงไปฝีกซ้อมก่อนการแข่งขัน เขาพบว่าทุกคนเล่นได้ดีทีเดียว มีเพียงรอนคนเดียวเท่านั้นที่มีปัญหา หลังจากเลิกการฝึกซ้อม แฮร์รี่และรอนเดินกลับขึ้นหอกริฟฟินดอร์และพบจินนี่กับดีนกำลังกอดและจูบกันอยู่ (>_<" ม่ายยยยยยยยยยย) ทำให้รอนกับจินนี่ทะเลาะกัน และแฮร์รี่ก็แอบรู้สึกไม่พอใจอยู่ลึกๆ (หึงแน่ๆ) เมื่อถึงวันแข่งขัน แฮร์รี่แอบเอายาโชคดีให้รอนกิน และสามารถชนะการแข่งขันได้ ทำให้รอนเป็นที่ยอมรับ และไปตีสนิทกับลาเวนเดอร์ บราว์น แต่เฮอร์ไมโอนี่รู้ทันแฮร์รี่ (และแอบหึงรอนกับลาเวนเดอร์ เอาเข้าไป)

บทที่15 The Unbreakable Vow

เริ่มต้นวันคริสต์มาส แฮร์รี่และเฮร์ไมโอนีได้รับเชิญจากฮอเรสไปในงานเลี้ยงของเขาและทั้งคู่สามารถเชิญคู่ของตนไปได้ เฮอร์ไมโอนีพยายามเตือนแฮร์รี่ว่ามีสาวๆกลุ่มนึง พยายามที่จะวางยาเสน่ห์ใส่แฮร์รี่เพื่อที่จะได้รับคำชวนไปงานเลี้ยงด้วย แฮร์รี่ชวนลูน่าไป ขณะที่เฮอร์ไมโอนีชวนคอร์แมค แมคแลคเจน(คนนี้แข่งกับรอนตอนที่คัดเลือกคีปเปอร์) แต่สุดท้ายเฮอร์ไมโอนีก็ไม่ได้ไปกับคอร์แมค ในงานเลี้ยง แฮร์รี่ได้พบกับสเนป และเดรโกที่พยายามจะเข้ามาในงานเลี้ยงโดยที่ไม่ได้รับเชิญ ซึ่งท้ายที่สุด ฮอเรสก็อนุญาต จากนั้นสเนปได้ดึงตัวเดรโกไปคุยตามลำพัง แฮร์รี่จึงสวมผ้าคลุมล่องหนตามไปแอบฟัง(มุกเดิมเลยเนี่ย) ทั้งคู่คุยกันอยู่ในห้องที่ไม่ไกลจากงานเลี้ยงมากนัก สเนปพยายามที่จะยื่นความช่วยเหลือให้เดรโก โดยอ้างว่าเขาได้ทำพันธะสัญญาที่ไม่อาจละเมิดได้กับแม่ของเดรโกเอาไว้(Unbreakable Vow) เดรโกปฏิเสธที่จะรับความช่วยเหลือพร้อมทั้งบอกว่าตนเองมีแผนไว้แล้ว และคิดว่าสเนปพยายามที่จะแย่งเกียรติยศไปจากเขา จากนั้นเดรโกก็ได้ออกมาจากห้องโดยไม่กลับไปที่งานเลี้ยง