สาขา CS และ SE มันต่างกันอย่างไร

[bigaun]

แอบเอามาลง


พี่ๆได้เขียนบทความแนะนำน้องๆเรื่องสาขาวิชาชีพที่เกี่ยวข้องกับภาควิชาเรา
ในบทความนี้พี่ต้อมจะแนะนำเรื่องการทำเกมส์เป็นอย่างไร ต้องมีความรู้ด้านใดบ้าง
ส่วนพี่บาสจะแนะนำวิชาที่น้องๆควรลงเพื่อให้มีความเชี่ยวชาญด้านกราฟฟิก ส่วนผมขอแนะนำว่าสาขา CS และ SE มันต่างกันอย่างไร แต่ละสาขาคือทำงานอะไร ลองอ่านกันดูครับน่าจะมีฉบับบต่อไปมาให้อ่านกัน
ทรงศักดิ์

เรื่องการสร้างเกมส์จากพี่ต้อม
การสร้างเกมอย่างมีระบบส่วนใหญ่ จะประกอบไปด้วยส่วนหลักๆคือ game engine architecture, AI, networking และ sound engine ครับ ซึ่งพอแยกออกมาแต่ละส่วนก็จะทำให้เราเริ่มเห็นภาพว่าถ้าอยากเขียนเกมจะต้องเริ่มเรียนอะไรบ้างนะครับ

1. Game engine architecture ส่วนนี่คือ engine ของเกมซึ่งสามารถโหลดมาจาก Internet และใช้ได้ฟรีหรือไปซื้อมาใช้จากใน Internet หรือหากใคร code เก่งๆและอยากเริ่มทำเกมเองทั้งหมด(ไม่อยากใช้ฟังก์ชั่นที่เค้าเขียนมาให้) ก็โค้ดเองเลยครับซึ่งไม่ว่าจะโค้ดเองหรือว่าจะใช้ engine ที่หามานั้นต้องรู้พื้นฐานพอสมควรครับวิชาที่พี่คิดว่าสำคัญๆที่จะทำให้น้อง code เก่งๆนะครับ พี่ว่าก็จะมี Data Structures , Object-Oriented Programming , Algorithm ฯลฯ ( อะไรก็ตามที่ assignment เยอะๆครับ )

2. AI น้องๆก็คงรู้อยู่แล้วนะครับว่า วิชา AI (Artificial Intelligence) เนี่ยสำคัญกับเกมอยู่แล้วเนื่องจากจะต้องออกแบบให้ Program คิดให้ได้ทางเลือกที่ดีที่สุดไม่ว่าจะเป็นการเลือกเส้นทางการเดินของตัวละคร หรือ การให้คอมพิวเตอร์ตอบสนองกับผู้เล่นเกมได้ดีที่สุด ซึ่งจุดนี้เป็นจุดสำคัญที่ทำให้เกมสนุกเลยก็ว่าได้เลยครับ พี่ขอแนะนำให้ลงวิชาทุกๆวิชาที่เกี่ยวข้องกับ AI เลยนะครับ

3. Networking ส่วนใหญ่จะใช้กับเกมที่สามารถเล่นได้หลายผู้เล่นครับซึ่งส่วนมากเราควรที่จะต้อง code ในส่วนที่ติดต่อในเรื่องของการเปิด socket ปิด socket และการออกแบบข้อมูลที่สำคัญๆ เพื่อส่งผ่านระบบ network ให้ได้ซึ่งในส่วนนี้น้องจะสามารถนำไปใช้ได้กับหลายๆเกมครับเนื่องจากแต่ละเกมจะมีข้อมูลในการส่งและรับแตกต่างกันออกไปครับ


4. Sound engine ในส่วนนี้เราก็เรียน computer นะครับคงไม่เอาเวลาไปแต่งเพลงหรือทำนองเองครับแต่เราจะมุ่งเน้นไปที่การเขียน code ยังไงให้สามารถอ่านเสียงเพลงและเล่นเพลงหยุดเพลงได้มากกว่าครับซึ่งในส่วนของ sound engine นี้มีให้โหลดใน Internet เยอะเลยครับแต่การจะใช้หรือเข้า API เหล่านั้นเป็นน้องๆก็คงต้อง code เป็นพอสมควรครับ

ส่วนจะลงวิชารึว่าจะไปทางสายอะไรก็แล้วแต่น้องจะตัดสินใจนะครับพี่คิดว่าข้อมูลในส่วนนี้จะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะครับ
ความแตกต่างระหว่างหลักสูตร SE(วิศวกรรมศาสตร์ซอฟต์แวร์): Software Engineering และ CS (วิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์): Computer Science

ที่มาของบทความนี้
ผมได้รับการถามจากนักศึกษาคนหนึ่งระหว่างเดินสวนกันที่บันไดภาควิชาว่า “อาจารย์ครับ สาขา SE มันต่างกับ CS ยังไง เรียนต่างกันยังไงบ้าง” ผมคิดว่าคงมีนักศึกษาจำนวนไม่น้อยในภาคที่อยากถามคำถามนี้แต่ไม่กล้า หรือ อาจจะมีนักศึกษาถามคำถามนี้กับผมในภายหลัง ซึ่งผมคงไม่สามารถตอบได้ชัดเจน มีคุณภาพเท่ากันทุกครั้งเนื่องจากหลังๆผมคงขี้เกียจตอบซ้ำ เลยบอกนักศึกษาคนนั้นไปว่าเด๋ยวผมจัดสัมมนาเพื่อตอบให้ทุกคนพร้อมกัน ผมได้นัดนักศึกษาโดยหวังว่าจะคุยให้ทั้งภาค(ในที่นี้รวมภาคปรกติและภาคพิเศษ)ฟังพร้อมกัน ปรากฏว่าในวันพุธที่ 2 ก.พ.(ถ้าผมจำไม่ผิด) ตอนบ่ายโมง ผมได้เชิญพี่เน็ต พี่ต้อม พี่บาส พี่ก้องและอาจารย์สุกรีมาคุยให้ทุกคนฟังโดยแต่ละท่านจะเชี่ยวชาญในสาขาที่ไม่เหมือนกัน พี่เน็ตกับอาจารย์สุกรีมาคุยเรื่องสาขาปัญญาประดิษฐ์ พี่ก้องมาคุยเรื่องสาขาเน็ตเวิร์ค พี่ต้อมมาคุยเรื่องการพัฒนาเกมส์ พี่บาสมาคุยเรื่องกราฟฟิกและอะนิเมชั่น ส่วนผมพูดเรื่องวิศวกรรมซอฟต์แวร์ ในวันนั้นปรากฏว่าเราได้คุยกับนักศึกษาภาคปรกติ ภาคพิเศษไม่ได้มาร่วม ผมเลยได้นัดวิทยากรมาพูดอีกครั้งในวันพฤหัสที่ 16 กพ อีกครั้ง ในการพูดทั้งสองครั้งผมพบว่ามีคนมาฟังมากพอสมควรแต่ไม่น่าจะครบทุกคน จึงทำให้ผมอยากที่จะเขียนบทความแนะนำสาขาต่างๆให้นักศึกษาได้เก็บไว้อ่าน โดยเฉพาะนักศึกษาที่ไม่ได้เข้าฟังหรือที่อาจจะเข้าแต่ฟังแล้วหลุด

คำถามที่ถ้าผมต้องการเลือกสาขาผมจะถามผู้รู้
ผมไม่แน่ใจว่าคำถามที่ผมต้องการถามผู้รู้เพื่อช่วยตัดสินใจเลือกสาขา(ถ้าผมเป็นนักศึกษา) จะเหมือนที่นักศึกษาถามหรือไม่ ตัวผมจะเลือกสาขาจาก
1. สาขา SE และ CS ถ้าจบแล้วจะทำอาชีพอะไร นอกเหนือจากที่ทุกคนรู้ว่าจบจากภาคเราไปเป็นโปรแกรมเมอร์ หรือ ไม่ก็เปลี่ยนไปทำอย่างอื่น
2. สาขา SE และ CS มีวิชาอะไรให้เรียนบ้าง วิชาพวกนั้นผมอยากเรียนไม๊
3. วิชาในสาขา SE และ ในสาขา CS ถ้าอยากเรียน เรียนยากไม๊ ต้องเก่งอะไร(Math ต้องเก่งไม๊ Code ต้องเก่งไม๊) แล้วเอาไปใช้ประกอบอาชีพอะไร
คำถามอื่นๆที่ผมมักคิดแทนนักศึกษาคือ วิชาไหนถ้าอยู่คอมฯธรรมศาสตร์ไม่เรียนแล้วเสียดายตายเลย
คำถามพวกนี้ผมพยายามจะตอบให้หมด มีอาจารย์บางท่านบอกว่านักศึกษาไม่ได้สนใจคำถามที่ผมตั้งไว้ตอนต้น แต่ที่นักศึกษาอยากรู้คือสาขาไหนโค้ดน้อย ไม่ต้องเขียนโปรแกรม จบง่ายกว่ากัน คำถามเหล่านี้ผมไม่อยากให้นักศึกษาใช้ตัดสินสาขา และการตอบคำถามเหล่านี้คงเป็นการทำลายอนาคตของพวกคุณ ผมคิดว่าทุกวิชายากแตกต่างกัน ให้ประโยชน์ต่างกัน นักศึกษาน่าจะคิดไตร่ตรองมากกว่าว่าเราอยากทำอะไร ผมหวังว่าหลังจากอ่านบทความของผมจบคงช่วยทำให้นักศึกษาเห็นภาพของ SE และ CS ได้ชัดขึ้น

ความแตกต่างแรกระหว่าง Software Engineering กับ Computer Science
นักศึกษาคงสังเกตว่า Computer Science มาจาก 2 คำคือ Computer และ Science ซึ่งหมายความว่าสาขานี้เป็นวิทยาศาสตร์ และ เป็นวิทยาศาตร์ที่ศึกษาเกี่ยวกับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ข้อมูลดิบ(Data) ข้อมูลสารสนเทศ(Information) ข้อมูลที่เป็นความรู้(Knowledge)
สาขาย่อยใน CS ที่ถูกมองว่าเป็นวิชาอาชีพในปัจจุบัน คือ
 Graphics กราฟฟิก
 Network ระบบเครือข่าย
สาขาย่อยอื่นที่ถูกจัดอยู่ในสาขา CS คือ
 AI ปัญญาประดิษฐ์
 Hardware System Software(โปรแกรมระบบ) เช่น OS ระบบปฏิบัติการ
 Database ระบบจัดการฐานข้อมูล

ในขณะที่ Software Engineering มาจากคำว่า Software และ Engineering ดังนั้น SE เป็นสาขาที่เกี่ยวกับวิศวกรรมศาสตร์(กระบวนการ เครื่องมือ เทคนิค วิธีการปฏิบัติงานที่ดีที่สุด การวัด การตรวจสอบ วิธีการคำนวณ วิธีการบริหารจัดการ)เพื่อจัดการการผลิตซอฟต์แวร์ โดยทั่วไปวิศวกรในสาขาใดก็ตามสนใจที่จะสร้างผลผลิตให้มีคุณภาพสูง คุ้มค่า ประสิทธิภาพสูง เช่นวิศวกรโยธาสสร้างบ้าน ตึก สะพานให้คงทน ปลอดภัย ในราคาประหยัด วิศวเครื่องกลก็ผลิตเครื่องจักรให้ทำงานได้ตามที่ต้องการ ประหยัดน้ำมัน ส่วนวิศวกรในสาขา SE มอง Software หรือโปรแกรมว่าเป็น ผลผลิต(Product) ที่ต้องการสร้างให้เป็นแบบอุตสาหกรรมให้ได้ คือ Software ต้องทำงานได้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว ไม่มี Bug ใช้งานง่าย เชื่อถือได้ คุณภาพดี ทีมที่สร้างซอฟต์แวร์สามารถกำหนดราคา งบประมาณ เวลาที่ต้องใช้เพื่อสร้าง

สาขาวิชาที่ผมคิดว่าน่าจะอยู่ในสาย SE คือวิชาด้าน MIS (Management Information System)
ส่วนอีกสาขาวิชาที่อยู่ในสาย CS แต่จำเป็นอย่างยิ่งที่คนสาย SE ต้องรู้ลึกคือ Database ส่วนวิชาทางด้าน Network คนสาย SE ควรรู้แต่ระดับพื้นฐานน่าจะเพียงพอ วิศวกรซอฟต์แวร์จะกระจายงานการออกแบบระบบเครือข่ายให้วิศวกรที่เก่งด้านNetwork ออกแบบและติดตั้งให้ครับ
ฉบับนี้ขอจบไว้แค่นี้ก่อน คราวหน้าจะแนะนำว่านักศึกษามีความรู้อะไรบ้างไม่ว่าจะเลือกสาขาไหนก็ตาม ซึ่งผมจะชี้ให้เห็นว่าภาคเรามีวิชาบังคับให้ทั้งสองสาขามีความรู้พื้นฐานที่คล้ายกัน


เรื่องแนะแนววิชาที่ควรลงเพื่อเก่งด้าน Computer Graphics จากพี่บาส
ที่พี่บาสเขียนอาจไม่ค่อยมีคำบรรยายเท่าไหร่ แต่ด้านล่างนี้เป็นรายวิชาในหลักสูตรใหม่ในสาย Computer Science และในสาย SE ที่พี่บาสคิดว่ามีประโยชน์สำหรับผู้ต้องการทำคอมพิวเตอร์กราฟฟิก

คพ.375 คอมพิวเตอร์กราฟิก 1 3 หน่วยกิต
CS375 Computer Graphics I
วิชาบังคับก่อน: เคยศึกษา คพ.213 และ ค.332
ซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ สำหรับคอมพิวเตอร์กราฟิกแบบโต้ตอบ วิธีการทั่วไปที่ใช้ในการออกแบบและแสดงผลภาพ การแปลงใน 3 มิติ การคลิป การปรับตำแหน่งจุดตามความลึก ความต้องการในส่วนของโครงสร้างข้อมูลและส่วนโปรแกรมสำหรับวิธีการดังกล่าว การลบพื้นผิวแฝง และการให้สี
(บรรยายสัปดาห์ละ 3 ชั่วโมง)

คพ.376 การจำลองแบบรูปทรงเรขาคณิตของวัตถุ 3 หน่วยกิต
CS376 Geometric Modeling
วิชาบังคับก่อน: เคยศึกษา คพ.375
การใช้รูปหลายเหลี่ยมกำหนดรูปทรงทางเรขาคณิตของวัตถุ 3 มิติ การสร้างเส้นโค้งและพื้นผิวโดยใช้สมการพาราเมตริกโพลีโนเมียล การสร้างรูปทรงของวัตถุ 3 มิติชนิดต่างๆ การใช้ฟังก์ชันแบบอิมพลิสิทสร้างเส้นโค้งและพื้นผิว เทคนิคการตัดแบ่งเชิงพื้นที่ การสร้างรูปทรง การใช้กระบวนคำสั่ง การสร้างรูปทรงที่อ่อนตัว การสร้างรูปทรงที่มีความละเอียดของข้อมูลต่างกัน การสร้างรูปทรงจากภาพ 2 มิติ
(บรรยายสัปดาห์ละ 3 ชั่วโมง)

คพ.476 คอมพิวเตอร์กราฟิก 2 3 หน่วยกิต
CS476 Computer Graphics II
วิชาบังคับก่อน: เคยศึกษา คพ.375
การสร้างเส้นโค้งและพื้นผิว การกำหนดค่าสี การลบพื้นผิวแฝง ขั้นตอนการคำนวณแสงโดยใช้รังสีของแสง และพลังงานที่ตกกระทบบนพื้นผิว การหาค่าฟอร์มแฟกเตอร์ การประยุกต์วิธีการของมอนติคาโล ในการคำนวณค่าแสง การกำหนดค่าสีของภาพโดยใช้ Z บัฟเฟอร์ และเฟรมบัฟเฟอร์
(บรรยายสัปดาห์ละ 3 ชั่วโมง)
คพ.477 ภาพเคลื่อนไหวคอมพิวเตอร์ 3 หน่วยกิต
CS477 Computer Animation
วิชาบังคับก่อน: เคยศึกษา คพ.476
วิธีการสร้างภาพเคลื่อนไหวด้วยคอมพิวเตอร์ในแบบต่างๆ ได้แก่ วิธีการใช้คีย์เฟรม การควบคุมการเคลื่อนไหวของกล้อง หุ่นยนต์ การใช้อุปกรณ์จับการเคลื่อนไหว การใช้กระบวนคำสั่ง และการสร้างภาพเคลื่อนไหวของวัตถุที่อ่อนตัว
(บรรยายสัปดาห์ละ 3 ชั่วโมง)


SE
คพ.336 แนวปฏิบัติการรูปแบบการโปรแกรมเชิงวัตถุ 3 หน่วยกิต
CS336 Practices and Patterns in Object-Oriented Programming
วิชาบังคับก่อน: เคยศึกษา คพ.111 หรือ คพ.112
หลักการโปรแกรมเชิงวัตถุขั้นสูง คลาสนามธรรม ส่วนต่อประสาน การสืบทอด เทรดส์ การเขียนโปรแกรมแบบกระจายขั้นสูง สตีมส์ การยืดให้เป็นเส้น การตรวจสอบ การย้อนกระทำ การเขียนโปรแกรมโดยใช้เหตุการณ์เป็นตัวกระตุ้น และเทคโนโลยีคอมโพเนนต์ การเขียนโปรแกรมจัดการข้อผิดพลาด กรณีศึกษา
(บรรยายสัปดาห์ละ 3 ชั่วโมง)
คพ.382 การพัฒนาซอฟต์แวร์เชิงคอมโพเนนต์ 3 หน่วยกิต
CS382 Component-Based Software Development
วิชาบังคับก่อน: เคยศึกษา คพ.284
ศึกษาแนวคิดและความรู้เกี่ยวกับการพัฒนาซอฟต์แวร์เชิงคอมโพเนนต์ เทคนิคต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เครื่องมือและภาษาที่จะนำมาใช้ และแนวทางตั้งแต่การทำแบบจำลอง การออกแบบ การสร้าง การรวบรวม
(บรรยายสัปดาห์ละ 3 ชั่วโมง)
คพ.387 เวปแอพพลิเคชันและโปรแกรมองค์กรขนาดใหญ่ 3 หน่วยกิต
CS387 Web Application and Enterprise Programs
วิชาบังคับก่อน: เคยศึกษา คพ. 342
ระบบและโปรโตคอลการให้บริการทางอินเตอร์เน็ต ได้แก่ ระบบบริการเวป การสร้างและติดตั้งโปรแกรมเวปแอพพลิเคชัน เทคนิคการสร้างเวปแอพพลิเคชันเพื่อนำไปใช้อีก อินเตอร์เฟสสำหรับติดต่อ ระบบให้บริการฐานข้อมูล ระบบให้บริการจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ ระบบให้บริการชื่อและไดเรกทอรี ระบบให้บริการข้อความ การโปรแกรมเครือข่าย มิดเดิลแวร์ โครงสร้างระบบโปรแกรมสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ ระบบให้บริการแอพพลิเคชัน และโปรแกรมโมเดลสำหรับสร้างเวปแอพพลิเคชันองค์กรขนาดใหญ่
(บรรยายสัปดาห์ละ 3 ชั่วโมง)

AI 2 & OS 2

คพ.467 การเรียนรู้ของเครื่องจักร 3 หน่วยกิต
CS467 Machine Learning
วิชาบังคับก่อน: เคยศึกษา คพ.365 หรือได้รับอนุมัติจากผู้บรรยาย
แนวคิดของการเรียนรู้ของเครื่องจักร การเรียนรู้แบบมีผู้สอน การเรียนรู้แบบไม่มีผู้สอน การเรียนรู้แบบเสริมแรง ต้นไม้ตัดสินใจ การเรียนรู้แบบเบย์ การเรียนรู้แบบเวอร์ชันสเปซ เครือข่ายประสาทเทียม ขั้นตอนวิธีพันธุกรรม ตรรกศาสตร์แบบคลุมเครือ งานประยุกต์ที่เกี่ยวข้อง
(บรรยายสัปดาห์ละ 3 ชั่วโมง)

คพ.447 ระบบปฎิบัติการ 2 3 หน่วยกิต
CS447 Operating Systems II
วิชาบังคับก่อน: สอบได้ คพ. 341 ไม่ต่ำกว่า C
การประมวลผลแบบพร้อมเพรียง การสื่อสารระหว่างโปรเซส ระบบปฎิบัติการแบบกระจาย ระบบปฏิบัติการเครือข่าย กรณีศึกษา
(บรรยายสัปดาห์ละ 3 ชั่วโมง)














ETC

คพ.389 สถาปัตยกรรมซอฟต์แวร์ 3 หน่วยกิต
CS389 Software Architecture
วิชาบังคับก่อน: เคยศึกษา คพ.382
ศึกษาสถาปัตยกรรมระบบทั้งด้านโครงสร้างและพฤติกรรม รวมถึงศึกษาเทคนิควิธีการที่จะนำมาใช้ในการพัฒนาสถาปัตยกรรมและการประยุกต์แพทเทินต่าง ๆ รวมถึงกรณีศึกษาต่าง ๆ
(บรรยายสัปดาห์ละ 3 ชั่วโมง)

คพ.456 ระบบสารสนเทศเพื่อการบริหาร 3 หน่วยกิต
CS456 Management Information Systems
วิชาบังคับก่อน: เคยศึกษา คพ.351
แนวคิดเบื้องต้นเกี่ยวกับระบบสารสนเทศ บทบาทของระบบสารสนเทศในองค์กร เทคโนโลยีฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และการสื่อสารข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับระบบสารสนเทศ และการบริหารงานในองค์กร แนวทางการพัฒนาระบบ การบริหารการใช้ทรัพยากรระบบ จริยธรรมและผลกระทบของระบบสารสนเทศ
(บรรยายสัปดาห์ละ 3 ชั่วโมง)

คพ.457 ระบบฐานข้อมูล 2 3 หน่วยกิต
CS457 Database Systems II
วิชาบังคับก่อน: เคยศึกษา คพ.351
หลักการและเทคนิคการออกแบบระบบการจัดการฐานข้อมูลขั้นสูง เนื้อหาครอบคลุม วิธีเข้าถึง ประสิทธิภาพและการประมวลผลข้อคำถาม การประมวลผลรายการเปลี่ยนแปลง การควบคุมภาวะพร้อมกัน การกู้ข้อมูล และความปลอดภัยของข้อมูล ระบบฐานข้อมูลแบบกระจาย แนวคิด การออกแบบ และการจัดการรายการเปลี่ยนแปลง แนะนำระบบฐานข้อมูลเชิงวัตถุ
(บรรยายสัปดาห์ละ 3 ชั่วโมง)
คพ.446 คอมพิวเตอร์เครือข่าย 2 3 หน่วยกิต
CS446 Net-Centric Computing II
เทคโนโลยีของเครือข่ายคอมพิวเตอร์ และการสื่อสารทางไกล การบริหารเครือข่าย ระบบกระจาย การแพร่และการส่งข้อความเชิงกลุ่ม มิดเดิลแวร์ ระบบความปลอดภัยเครือข่าย มัลติมีเดียไร้สายและเคลื่อนที่ คุณภาพการให้บริการ การโปรแกรมเครือข่าย

สาย CG เน้น Software Programming & Knowledge
(อื่น->เน้นธุรกิจ, เน้น Hardware)
Computer Graphics
CS375 Computer Graphics I วิชาบังคับก่อน: เคยศึกษา คพ.213 และ ค.332
CS376 Geometric Modeling วิชาบังคับก่อน: เคยศึกษา คพ.375
CS476 Computer Graphics II วิชาบังคับก่อน: เคยศึกษา คพ.375
CS477 Computer Animation วิชาบังคับก่อน: เคยศึกษา คพ.476

SE
CS336 Practices and Patterns in Object-Oriented Programming เคยศึกษา คพ.111 หรือ คพ.112
CS382 Component-Based Software Development เคยศึกษา คพ.284
CS387 Web Application and Enterprise Programs เคยศึกษา คพ. 342

AI 2 & OS 2
CS467 Machine Learning เคยศึกษา คพ.365 หรือได้รับอนุมัติจากผู้บรรยาย
CS447 Operating Systems II วิชาบังคับก่อน: สอบได้ คพ. 341 ไม่ต่ำกว่า C

ETC
CS389 Software Architecture เคยศึกษา คพ.382 เพิ่มประสบการณ์
CS456 Management Information Systems เคยศึกษา คพ.351 เขียนแผนธุรกิจ
CS457 Database Systems II เคยศึกษา คพ.351 รู้จักทำ DB query แปลกๆ
CS446 Net-Centric Computing II สอบได้ คพ. 342 ไม่ต่ำกว่า C รู้จัก Network

Selected Topics …
จบไปทำงานอะไร ?? รู้ทางด้าน CG,AI,SE(Prog & Network & DB)
Effect Programmer , Shader Programmer , Game Programmer
,3DPackage Programmer

[SoUL]

โอ๋ พี่อั๋นมีสาระ

[Inception]

จะปักหมุดให้ละกัน มีสาระดี

ปล พี่บาสที่ว่าเนี่ย ลุงรหัสผมป่าวหว่า

[bigaun]

พี่บาส ที่พูดถึง คือพี่บาสหื่น หน้าตาไม่ดี แต่ฝีมือขั้นเทพ

[Inception]

ถ้าพี่บาสทางด้านกราฟฟิกละก็น่าจะใช่ ตั้งแต่เกิดมาเจอแค่ครั้งเดียว ลุงรหัสผม -*-

เอ๊ะ เค้าเป็นเมทพี่อั๋นป่าว

[bigaun]

ไม่ใช่ล่ะ

พี่เป็นเมทเก่า เอก

พี่เปลี่ยนเมททุกปี เพื่อความตื่นเต้น

[Inception]

อ่อ งั้นพี่ก็เสร็จเอกไปแล้วละสิ ฮ่าฮ่า

[ext]

หิวข้าวว่ะ
หิวข้าวว่ะ
หิวข้าวว่ะ
หิวข้าวว่ะ
หิวข้าวว่ะ
หิวข้าวว่ะ
หิวข้าวว่ะ
หิวข้าวว่ะ
หิวข้าวว่ะ

[cruiser]

อยากเรียนกราฟฟิก


แต่รุ้มาว่าต้องเรียน แคล3 ด้วย


แค่แคล1 ป๋มเรียนตั้งปีนึงถึงจะผ่าน


แล้วจะรอดมั้ยเนี่ยยยย

[jjmedz]

เออพี่ครับ อย่าว่างั้นงี้เลยนะครับ ช่วยอธิบายข้างบนใหม่ได้มั้ยครับ เอาเป็นเข้าใจง่ายๆๆ สั้นๆๆได้ใจความหน่อยครับ อ่านแล้วงง ตาลายไปหมดเลยคับ

[bigaun]

พี่ปี 4 ช่วยอธิบายให้น้องเข้าใจหน่อยแล้วกันครับ

พี่ก้อไม่ค่อยรู้อะไร

[Inception]

เอางี้ละกัน เอาเท่าที่แบครู้นะ
แบคเรียนสาย cs
แล้ววิชาที่แบคลง เน้นไปทาง ai

ai
จะเรียนเกี่ยวกับการทำให้คอมคิดเป็น......อันนี้ใครๆก็รู้
แต่เนื้อหาก็คือ จะเรียนเกี่ยวกับการsearch แบบใหม่ๆ เช่น depth ไม่รู้เขียนถูกป่าวนะ
คล้ายๆกับว่า ในนั้นจะมีคำตอบอยู่แล้วว่า เจ้าagentเนี่ย ต้องทำอะไร ก็เลยต้อง search หาว่าต้องทำอะไร

ถ้าไม่เข้าใจ ก็นึกถึงหมากรุกก็ได้ ประมาณว่า ถ้าเราเดินแบบนี้ ตาต่อไปคอมจะเดินยังไง

ส่วน ai2
อาจารย์บอกว่า จริงๆแล้ววิชานี้ จะสอนอะไรก็ได้ เพราะชื่อวิชามันกว้าง
แต่ตอนที่แบคเรียนเนี่ย เรียนภาษา prolog ซึ่งเป็นภาษาai
อ่อ...จะบอกว่าพอหลังมิดเทอม จะเป็นเนื้อหาคล้ายๆ machine learning แล้วก็ open book ด้วย

วิชา machine learning
วิชานี้จะเน้นไปทาง การสอนให้เจ้าagentเนี่ย เก่งขึ้น จะต้องมีการ train
ถ้าใครใช้พวกโปรแกรมประเภท filter junk mail/virus น่าจะเข้าใจ
ก็อย่างเช่น มีเมลมา 1 ฉบับ แล้วเรารายงานไปว่าเป็นjunk mail
ต่อไป ถ้ามีเมลคล้ายๆกันมา มันก็จะรู้ทันที ไม่ต้องไปบอกอีก
นั่นแหละครับ เราจะไปเรียนรู้ว่า ทำยังไง มันถึงจะเรียนรู้ได้แบบนั้น

*** วิชาพวก ai1 machine learning ต้องมีจินตนาการพอสมควรนะ เพราะมันไม่ได้เป็นหลักการที่ตายตัวสักเท่าไร

network
จะเรียนเกี่ยวกับเครือข่าย ว่ามีแบบไหนบ้าง แต่ละแบบดียังไง แล้วการส่งข้อมูลไปหาอีกเครื่องต้องผ่านกระบวนการอะไรบ้าง

os
เรียนรู้ว่าการที่จะสร้างระบบปฏิบัติการสักตัว ต้องรู้เรื่องอะไรบ้าง
เช่น memory ต้องจัดเก็บยังไง การทำงานของcpuเวลาเรียก process หลายๆอัน มันทำงานยังไง
มันจะทำอันไหนก่อนหลัง ทำไมเครื่องถึง crash
โดยวิชานี้จะอ้างอิงกับระบบปฏิบัติการ unix/linux เป็นหลัก

graphic
อันนี้ไม่ทราบ เพราะผมยังไม่ได้ลง แต่มันไม่ต้องเรียนแคล 3 นี่นา
ต้องเรียนลิเนี่ยอ่ะ

database
ก็พวกการจัดเก็บข้อมูล การเรียกข้อมูลจากหลายๆตารางต้องทำยังไง


ประมาณนี้

[Phoenix]

ของสาย SE นะครับ เป็นการเรียนการสอนของรุ่น 47 เน้อ

เอาเฉพาะรายวิชาที่เรียนแตกต่างกับ CS นะ ว่ากันเป็นรายวิชาเลย

CS 382 การพัฒนาเชิงคอมโพแนนต์
ผู้สอน อ.ทรงศักดิ์
เนื้อหา เรียนเกี่ยวกับการเขียนโปรแกรมให้ง่ายต่อการนำไปใช้ใหม่ หรือนำไปทำงานร่วมกับโปรแกรมอื่น
ภาษา/Tool Java / Java Bean ,Eclipse , Jsp ,servlet
การสอน ทฤษฏีเรียนแต่พองาม เพราะนำไปใช้สอบกลางภาค/ปลายภาค เน้นเขียนโปรแกรม จึงจำเป็นต้องขอเวลา ชม. ปฏิบัติเพิ่ม
การวัดผล/การเก็บคะแนน
1. งานระหว่างเรียน ประมาณ 3-5 งาน ตรงนี้ไม่ต้องซีเรียส ยืดหยุ่นได้
2. สอบกลางภาค 20 คะแนน ทฤษฏีเป็นส่วนมาก เขียนกันเพียวๆ ให้มือเดี้ยงกันไปเลยทีเดียว แถมด้วยโปรแกรมที่สอนมา ให้อ่าน code หรือ เขียน code เพิ่มนิดหน่อย
3. Project ใหญ่ 1 งาน เป็น Document + Program เน้นตัวโปรแกรมมากกว่า ทำออกมาดี ก็ได้ B ขึ้นไป แต่ถ้าไม่ดี อันนี้ก็ต้องทำใจ ตัดเกรดโหดมากมาย
4. สอบปลายภาค 20 คะแนน คล้ายๆ กลางภาค

CS383 กระบวนการซอฟแวร์และปรับปรุงคุณภาพ
ผู้สอน อ.ทรงศักดิ์
เนื้อหา เรียนเกี่ยวกับขั้นตอนพัฒนาซอฟแวร์ เน้นไปที่การ test โปรแกรม
ภาษา/Tool Java,html / Java Bean ,Eclipse , Jsp ,servlet
การสอน เน้นทฤษฏีมากหน่อย
การวัดผล/การเก็บคะแนน
1. งานระหว่างเรียน ประมาณ 3-5 งาน
2. สอบกลางภาค 20 คะแนน ทฤษฏีเน้นๆ เขียนอีกเช่นเดิม บรรยาย + วิเคราะห์
3. Project ใหญ่ รวมกับ วิชา CS 382
4. สอบปลายภาค 20 คะแนน คล้ายๆ กลางภาค

CS385 การกำหนดและจัดการความต้องการทางซอฟแวร์
ผู้สอน อ.นุชชากร
เนื้อหา ขั้นตอนการหา Requirment ล้วนๆ
ภาษา/Tool ภาษาพูด(ไทย+Eng) ,ภาษากายประกอบอีกเล็กน้อย
การสอน ทฤษฏีทั้งเทอมเลยทีเดียว ไม่มีปฏิบัติ
การวัดผล/การเก็บคะแนน
1. งานระหว่างเรียน เล็กน้อย สอบในห้องอีก 2-3 ครั้ง ไม่ซีเรียส
2. สอบกลางภาค/สอบปลายภาค ทฤษฏีเน้นๆ บรรยายอย่างคราวๆแต่ครอบคลุม เขียนสั้นๆ อย่างละเอียด
3. Project ใหญ่ หา Requirment ระบบ หนาเป็นร้อยหน้าได้

ส่วนของเทอม 2 มันจะเป็นวิชาเลือกอ่าคับ น้องๆ ต้องตกลงกันเอง ว่าจะลงอะไร
ที่เปิดในปีพี่ก็ น่าสนใจหลายตัว ที่พี่เลือกไป ก็มี
- oop ของ java ก็เรียนเกี่ยวกับ รูปแบบต่างๆ ของการเขียนโปรแกรม เพื่อใช้แก้ปัญหาที่พบเจอกันบ่อยๆ ก็จะได้เห็นว่า ปัญหาแบบนี้ ควรจะเขียนด้วยรูปแบบใด
- CM Configuration Management เรียนเกี่ยวกับ การจัดการเมื่อต้องการเปลี่ยนแปลงโปรแกรมซักตัวนึง ตอนเรียนพี่ก็ว่า คงไม่ค่อยได้ใช้ แต่ตอนฝึกงาน บริษัทใหญ่ๆ เขามีระบบขั้นตอนแบบนี้จริงๆ

วิชาเลือกที่เหลือ ที่พี่ว่าจะลงตอนปี 4
- Web app
- Select topic

ส่วนที่ถามกันว่าเลือกสายนี้ลง Network 2 ได้ไหม
- พี่ก็ลงไปแล้ว ปี 4 เทอม 1 ดูจากตารางเวลาเรียน/สอบมันไม่ตรงกันนะ สรุปคือ น้องอยากเรียนวิชาไหนเพิ่มก็ได้ ขอแค่ อย่าให้ตารางเวลาสอบตรงกันก็พอ (ดูได้จาก section)

[AI of Game]

ไม่รู้เรื่องอ่า
มันเป็นอะไรที่มีหลักการ มีสาระเกินไป
ยังไม่อยากจะรับรู้

(แล้วจาเข้ามาอ่านทำไมเนี่ย)

[Jak'r]

เท่าที่เจอมาเทอมนี้(3-1)นะ จะแบ่งตามบรรยากาศการเรียนก็ได้

สายCS ทฤษฎีเรื่องใหม่ๆเยอะ แต่เป็นคนละแนวกับของสาย SE เลย ลักษณะการบ้านจะเป็นการ Coding แต่ทำมันส์มือมาก และเน้นความเข้าใจในแนวคิดนั้นๆ ไม่เน้นการโค้ดให้ถูกตามมาตรฐาน OO เท่าไรนัก ประมาณว่าเน้น Structure มากกว่า OO แต่สุดท้ายก็ฝึกเขียน OO ดีกว่าเพราะเอาไปใช้ตอนทำงานจริงได้ดีกว่า

บรรยากาศ-เนื้อหาการเรียน-การบ้านสาย CS - ความรู้สึกคล้ายตอนเรียนวิชา Data Structure



สายSE เรียนทฤษฎี เน้นของการพัฒนาซอฟต์แวร์ซะเยอะ กรรมวิธีต่างๆในการวิเคราะห์และออกแบบระบบ การบ้านเน้นงาน Document มากๆ ใครไม่ชอบทำรายงานเยอะๆไม่ควรเรียนสายนี้อย่างยิ่ง โค้ดแนว OO 100% ไม่สามารถบรรยายได้มากเพราะไม่ได้เรียนสายนี้

บรรยากาศ-เนื้อหาการเรียน-การบ้านสาย SE - ประมาณตอนเรียนวิชา Intro to SE



ปล.ดูจากบรรยากาศการเรียนก็น่าจะรู้ได้ทันทีว่าตัวเองชอบเรียนสายอะไร *---------*